วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2560

ทำอาหารกันดีกว่ากับเมนู"ผัดเผ็ดหมูป่า"



หม่ำ หม่ำ กับ แม่น
ผัดเผ็ดหมูป่า
     แม่นกยังคงอยู่กับเมนูผู้ใหญ่อีกนะคะ  ซึ่งวันนี้แม่นกขอนำเสนอเมนูอาหารป่า มีคุณแม่หลายท่านคงเคยมีความรู้สึกเช่นนี้เวลาอยากรับประทานอาหารป่าก็จะหาซื้อมารับประทานไม่ค่อยง่าย เพราะไม่ค่อยมีขายตามร้านอาหารทั่วไปก็เลยต้องอด รับประทานไป  วันนี้แม่นกเลยขอมาบอกถึงวิธีการทำอาหารป่ารับประทานเองที่บ้านรวมถึงเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ในการเลือกซื้อวัตถุดิบหลักที่จะนำมาปรุงในเมนูนี้ด้วย เมนูอาหารป่ารสชาติออกจะจัดจ้าน เผ็ดร้อน สักหน่อย ด้วยส่วนประกอบที่นำมาปรุงซึ่งเป็นของคู่กันกับอาหารป่าที่ต้องมีรสชาติแรงๆ วันนี้แม่นกขอนำเสนอด้วยเมนู ผัดเผ็ดหมูป่า รสชาติจัดจ้านร้อนแรง
เรามาดูส่วนประกอบกัน
·      หมูป่า 3-4 ขีด มีขายตามตลาดสด หรือ ห้างสรรพสินค้าอาหารสด
·      น้ำพริกแกงเผ็ด หรือ น้ำพริกแกงเผ็ดใต้ ซึ่งจะผสมขมิ้น
·      พริกขี้หนูสด 5-10 เม็ด
·      พริกชี้ฟ้าแดง 3 เม็ด
·      พริกไทยอ่อน 2-3 ฟัก
·      ใบมะกรูด 4-5 ใบ
·      กระชาย 3-4 หัว
·      ซีอิ้วขาว
·      น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
·      น้ำซุป
เรามาเริ่มเตรียมวัตถุดิบกันเลย เมื่อคุณแม่ได้หมูป่ามาแล้วให้นำไปล้างน้ำให้สะอาด เมื่อล้างน้ำสะอาดเรียบร้อยแล้วให้นำมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำโดยการหั่นให้ทุกชิ้นพยายามหั่นให้ติดหนังมาด้วยไม่บางหรือหนาเกินไป
ปกติหมูป่าที่ขายตามท้องตลาดส่วนใหญ่จะผ่านการเผาไฟแบบผ่านๆ มาบ้างแล้ว             ผิวของหนังหมูก็จะออกแข็งๆ และ หมูป่าส่วนใหญ่จะมีมันหมูติดหนังน้อยมากหากจะเลือกซื้อหมูป่าก็พอจะสังเกตได้  หมูป่าเค้าจะมีขนที่แตกต่างจากหมูบ้านหรือหมูเลี้ยงคือหมูป่าขนเค้าจะมีสีดำส่วนหมูบ้านหรือหมูเลี้ยงขนเค้าจะมีสีขาวหรือสีน้ำตาล นอกจากหมูป่าจะมีสีของขนที่แตกต่างจากหมูบ้านหรือหมูเลี้ยงแล้ว  ยังมีอีกอย่างที่พอจะให้คุณแม่สังเกตได้  ให้ดูรูขุมขนบริเวณหนังหมู เพราะถ้าหากเป็นหมูป่าแท้ ขนของหมูป่าบริเวณรูขุมขนหนึ่งรูเค้าจะมีขนสามเส้นถึงแม้พ่อค้าแม่ค้าเค้าจะโกน ขนหมูจนเกลี้ยงแต่เราก็สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า ส่วนหมูบ้านหรือหมูเลี้ยง รูขุมขนเค้าจะเรียงทีละเส้น พอจะเป็นจุดใหญ่ๆให้สังเกตในการเลือกซื้อได้คะ
   เมื่อเราหั่นหมูป่าแล้วเราก็มาเตรียมส่วนประกอบอื่นๆ กันต่อ ให้คุณแม่นำพริกขี้หนูสดมาตำละเอียดเพื่อจะนำมาผสมกับน้ำพริกแกงเผ็ดที่เราซื้อมาจากตลาด หรือถ้าหากคุณแม่บางท่านไม่รับประทานเผ็ดก็ไม่ต้องผสมพริกขี้หนูสดลงไปก็ได้ ส่วนน้ำพริกแกงเผ็ดใต้จะมีสีเหลืองของขมิ้นจะเพิ่มความน่ารับประทานให้เมนูนี้เข้าไปอีก แต่น้ำพริกแกงเผ็ดใต้ส่วนใหญ่เค้าจะผสมพริกไทยดำลงไปในน้ำพริกแกงเผ็ดใต้ รสชาติของน้ำพริกแกงเผ็ดใต้จึงมีความเผ็ดร้อนมากกว่าน้ำพริกแกงเผ็ดทั่วไป  ซึ่งถ้าคุณแม่ไม่รับประทานเผ็ดหากใช้น้ำพริกแกงเผ็ดใต้ก็ไม่ต้องใส่พริกขี้หนูสดลงไปในเมนูนี้ด้วยก็ได้

 เราจะใช้น้ำพริกแกงประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ หรือประมาณ 2-3 ขีด จากนั้นให้นำพริกชี้ฟ้าแดงล้างน้ำให้สะอาดหั่นตามแนวเฉียงเม็ดหนึ่งจะได้ 3-4 ชิ้น จากนั้นก็นำกระชายล้างน้ำสะอาดอาจจะขุดเปลือกออกอย่างหยาบๆ แล้วนำซอยเป็นชิ้นบางๆแนวยาว  ส่วนใบมะกรูดเมื่อล้างน้ำแล้วนำมาฉีก ใบหนึ่งประมาณ 2-3 ส่วน  พริกไทยอ่อนเมื่อล้างน้ำแล้วพักทิ้งไว้ไม่ต้องหั่นเพราะเวลาเรานำไปปรุงเราจะใส่ทั้งช่อเลย

     เมื่อได้ส่วนประกอบครบแล้วเราก็มาถึงขั้นตอนการผัดกัน  โดยเริ่มจากให้คุณแม่นำกระทะตั้งไฟ  เราจะใช้ไฟกลางในการผัดใส่น้ำมันพืชประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยพริกแกงเผ็ดที่ผสมกับพริกขี้หนูสดตำละเอียดลงไปผัดให้หอม

 


เมื่อผัดพริกแกงพอได้กลิ่นหอม ก็นำหมูป่าลงไปผัดกับน้ำพริกแกง ในขั้นตอนนี้ให้           คุณแม่เติมน้ำซุปลงไปประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะ บางสูตรเค้าจะใช้นมสดเพื่อเพิ่มความหวานมันของผัดเผ็ดหมูป่าจานนี้ด้วย คุณแม่สามารถเลือกใส่ได้ตามสะดวกจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ค่ะ  ผัดให้พริกแกงเข้าเนื้อหมูป่าดีแล้ว จึงใส่กระชาย พริกชี้ฟ้า ใบมะกรูด และ พริกไทยอ่อนลงไป
 
 
จากนั้นปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว และ น้ำตาลทราย แล้วผัดทุกอย่างให้เข้ากัน  เท่านี้เราก็ได้แล้วผัดเผ็ดหมูป่ารสชาติจัดจ้านร้อนแรงในแบบฉบับของชาวใต้เลยละค่ะ








วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2560

ทำอาหารกันดีกว่ากับเมนู"หมูผัดตะไคร้พริกไทยดำ"



ม่ำ หม่ำ กับ แม่นก
หมูผัดตะไคร้พริกไทยดำ

วันนี้แม่นกมานำเสนอเมนูสุขภาพอีกแล้วค่ะ เป็นเมนูสมุนไพรไทย ที่นำมาปรุงอาหารรับประทานกัน ด้วยเมนู หมูผัดตะไคร้พริกไทยดำ ที่มีความเผ็ดร้อนของพริกไทยดำ และมีความหอมของตะไคร้ ซึ่งตะไคร้คุณแม่บ้านบางท่านอาจยังไม่ทราบว่าตะไคร้จริงๆ แล้วมีประโยชน์กับร่างกายหลายอย่าง เช่น สำหรับผู้ที่เหงื่อออกยาก หรือ นั่งทำงานในห้องแอร์โดยเฉพาะสาวๆ หนุ่มๆ ในออฟฟิศ รับประทานตะไคร้จะดีมากเพราะจะช่วยในเรื่องของการขับเหงื่อได้ดี หรือ ผู้ป่วยที่เป็นไข้ตัวร้อน รับประทานน้ำตะไคร้ก็จะช่วยลดไข้ได้ด้วย หรือ จุกเสียดแน่นท้องหากรับประทานตะไคร้ก็จะช่วยลดอาการจุกเสียดแสบท้องได้ ฯลฯ และ อื่นๆ อีกมากมาย วันนี้แม่นกเลยใช้ตะไคร้มาปรุงอาหารกัน มาดูส่วนประกอบกันเลยค่ะ

1.         เนื้อหมูสันใน ½ กิโลกรัม
2.         ตะไคร้  3  ต้น
3.         พริกขี้หนูสด 3-4 เม็ด
4.         หอมหัวใหญ่ 1 หัว
5.         กระเทียมไทย 1 หัว
6.         พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ
7.         น้ำมันหอย
8.         น้ำตาลทราย
9.         ซีอิ้วขาว
10.    น้ำมันพืช
11.    น้ำซุป
เริ่มจากให้คุณแม่บ้านนำเนื้อหมูสันในมาล้างทำความสะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำตามขวางของลายเส้นเนื้อหมู จากนั้นก็นำหอมหัวใหญ่ปลอกเปลือกล้างน้ำให้สะอาดแล้วนำมาผ่าครึ่งแล้วทำการหั่นซอยตามแนวขวางของกลีบหอมหัวใหญ่ นำพริกขี้หนู            มาหั่น ส่วนกระเทียมก็นำมาปลอกเปลือกเหลือเปลือกบางๆ ของกลีบกระเทียมไม่เป็นไร นำมาทุบพอให้แตกแล้วใช้มีดสับซอยเล็กน้อย ส่วนพริกไทยดำก็ให้นำไปตำกับครกพอแตกไม่ต้องละเอียดมาก สุดท้ายก็มาถึงตะไคร้ พระเอกของเรา เริ่มจากให้ คุณแม่บ้านนำตะไคร้ไปล้างทำความสะอาดแล้วลอกเอาใบแก่ๆ ออก เอาออกต้นหนึ่งประมาณ 1-2 ใบ จากนั้นตัดยอดตะไคร้ออกให้วัดจากยอดตะไคร้ที่เค้าตัดใบออกแล้วลงทางโคนต้นประมาณ 1-2 นิ้ว แล้วนำต้นตะไคร้ไปซอยละเอียดตามแนวเฉียง หรือสังเกตเวลาเราซอยตะไคร้หากเราหั่นซอยง่ายๆ นั้นคือบริเวณที่อ่อน แต่ถ้าหั่นไปเรื่อยๆแล้วรู้สึกฝืดๆ หั่นลำบาก บริเวณนั้นคือลำต้นที่แก่แล้วเราไม่ใช้ เมื่อเราเตรียมวัตถุดิบไว้สำหรับปรุงแล้วเราก็มาลงมีทำขั้นตอนต่อไปเลยค่ะ
เริ่มจากให้คุณแม่บ้านตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วตามด้วยกระเทียมทุบ เราจะใช้ไฟกลางในการผัด  พอผัดให้กระเทียมส่งกลิ่นหอมแล้วใส่หมูสันในที่เราหั่นไว้ลงไปผัด  พอหมูเริ่มจะสุกก็ให้คุณแม่บ้านใส่ พริกไทยดำที่เราตำไว้ ลงไปผัดให้พริกไทยดำเข้ากันดีกับหมู  จากนั้นก็ใส่น้ำซุปประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูซอย  หอมหัวใหญ่ซอย  ตะไคร้ซอย น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ  น้ำตาลทราย   ½ ช้อนโต๊ะ   ซีอิ้ขาว 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นก็ทำการผัดให้ทุกอย่างเข้ากันดี  ให้คุณแม่บ้านชิมรสชาติ รสชาติของหมูผัดตระไคร้พริกไทยดำ จะออกรสชาติ เผ็ดนิดๆ เค็มนำ หวานหน่อยๆ และ มีความหอมของตระไคร้และพริกไทยดำ เท่านี้ก็เสร็จแล้วตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆแล้วค่ะ


วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2560

ทำอาหารกันดีกว่ากับเมนู"ผัดหมี่ซั่วแสนอร่อย"



หม่ำ หม่ำ กับ แม่นก
ผัดหมี่ซั่วแสนอร่อย


วันนี้แม่นกจะทำเมนูจีน ปกติเมนูนี้ก็จะทำรับประทานช่วงเทศการตรุษจีน หรือ               ไหว้เจ้า แต่ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลเราก็จะหารับประทานยากสักหน่อย แม่นกเลยอยากนำเสนอเมนูนี้ไว้ทำรับประทานกันที่บ้าน  ด้วยเมนู ผัดหมี่ซั่วแสนอร่อย  การผัดหมี่ซั่วนั้น แต่ละสูตรแต่ละบ้านอาจจะมีส่วนประกอบต่างกันไปไม่มีสูตรตายตัวยกเว้นหมี่ซั่ว วันนี้แม่นกก็จะมานำเสนอ อีกสูตรหนึ่ง ให้คุณแม่บ้านลองไปทำดูนะคะ เรามาดูส่วนประกอบกันค่ะ


  • ·      เส้นหมี่ซั่ว 1 ห่อ รับประทานได้ 3-4 คน
  • ·      ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • ·      เห็ดหอมแห้ง
  • ·      ถั่วงอก
  • ·      ผักชี
  • ·      พริกขี้หนู
  • ·      มะนาว
  • ·      กระเทียมไทย
  • ·      พริกไทยป่น
  • ·      ซีอิ้วขาว
  • ·      น้ำมันหอย
  • ·      น้ำตาลทราย
  • ·      น้ำมันพืช
  • ·       กุนเชียง

เรามาเริ่มเตรียมวัตถุดิบกันเริ่มจากให้คุณแม่บ้านนำหม้อใส่น้ำตั้งไฟใส่ประมาณ ½ หม้อ พอน้ำเดือด ให้นำเส้นหมี่ซั่วใส่ลงไป ต้มทิ้งไว้ประมาณ 3-4 นาที พอเส้นพองดีแล้วให้ตักขึ้นมาใส่ลงในน้ำเย็น จากนั้นก็ตักขึ้นมาใส่ในชามหรือตะแกรงที่มีรูพอให้น้ำออกได้เพื่อกรองเอาน้ำออก เมื่อน้ำออกดีแล้วให้คุณแม่บ้านตักน้ำมันพืชประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ คลุกเส้นหมี่ซั่วให้ทั่วเพื่อป้องกันไม่ให้เส้นหมี่ซั่วติดกัน จากนั้นก็พักไว้ก่อน นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันพืชลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นก็ตามด้วยกระเทียมไทยที่ปลอกเปลือกและทุบพอแตก เราใช้ประมาณ 1 หัว  ผัดกับน้ำมันจนเหลืองและหอม จากนั้นให้คุณแม่บ้านตอกไข่ไก่ใส่ลงไป แล้วผัดให้ไข่แดงและไข่ขาวรวมตัวกันจนสุก ขั้นตอนนี้ต้องผัดจนไข่สุกเลยนะคะ จากนั้นใส่เส้นหมี่ซั่วลงไป หากไข่ไม่สุกยังเป็นน้ำเส้นหมี่ซั่วจะเละและจับตัวเป็นก้อน  เมื่อใส่หมี่ซั่วลงไปผัดให้เข้ากับไข่แล้วก็ใส่ถั่วงอก ที่ล้างน้ำแล้ว เราใช้ประมาณ 2 กำมือ หรือ จะมากน้อยตามแต่คุณแม่บ้านชอบ จากนั้นก็ตามด้วยซีอิ้วขาว  2 ช้อนชา น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา และ เห็ดหอมแห้งที่เรานำไปแช่น้ำทิ้งไว้แล้วหั่นซอยเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงไป เราใช้ประมาณ 2-3 ดอก  จากนั้นทำการผัดให้ทุกอย่างเข้ากันโดยเฉพาะเครื่องปรุงผัดให้เข้าเนื้อเส้นหมี่ซั่ว จากนั้นก็ตักขึ้นมาพักไว้ก่อน
เสร็จแล้วเรามาทอดกุนเชียงก่อนทอดให้คุณแม่บ้านนำกุนเชียงมาหั่นเฉียงชิ้นพอดีคำอย่าหนาหรือบางจนเกินไป เวลาทอดกุนเชียงนั้น ให้ใช้ไฟอ่อนในการทอดเพื่อจะได้สุกทั่วชิ้นไม่ไหม้เสียก่อนจะสุก เมื่อสุกดีแล้วให้ตักใส่ตระแกรงกรองน้ำมันพักไว้ก่อน จากนั้นนำหมี่ซั่วที่เราผัดตักใส่จานตกแต่งด้วยพริกขี้หนูแดงซอยโรยด้วยผักชีล้างน้ำให้สะอาดแล้วหั่นนำไปโรยบนหมี่ซั่วเพื่อความสวยงามและเพิ่มความหอม โรยหน้าหมี่ซั่วด้วยพริกไทยป่น หากเด็กๆ รับประทานไม่ต้องโรยก็ได้ค่ะ และ ตักกุนเชียงไว้ข้างๆจาน พร้อมกับมะนาวผ่าซีก ไว้บีบตอนรับประทาน เท่านี้ก็เสร็จแล้วผัดหมี่ซั่วแสนอร่อยสูตรของแม่นก