วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2560

ทำอาหารกันดีกว่ากับเมนู"เทคนิคตกแต่งจานข้าวเจ้าตัวเล็ก"



หม่ำ หม่ำ กับ แม่นก
เทคนิคตกแต่งจานข้าวเจ้าตัวเล็ก
วันนี้แม่นกจะพูดถึงการตกแต่งจานของข้าวเจ้าตัวน้อยกัน ถ้าติดตามมาหลายเมนูจะสังเกตว่าแม่นกจะมีลูกเล่นต่างๆ เพื่อดึงดูดความสนใจให้กับลูกในการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อ เพราะโดยปกติเด็กมักจะเบื่อง่ายโดยเฉพาะอาหารเสริมพวกข้าวที่ต้องรับประทานทุกวัน เลยต้องหาสิ่งกระตุ้นเพิ่มความสนใจในการรับประทานอาหารของเจ้าตัวน้อยสักหน่อย  เทคนิคง่ายๆ ของแม่นกคือความใส่ใจในรายละเอียดของอาหาร คุณค่าทางโภชนาการ และ วัตถุดิบ ที่จะนำมาให้ลูกเรารับประทาน  ฟังดูแล้วคุณแม่บางท่านอาจจะคิดว่าอนามัยเกินไปไหม  ใช่ค่ะอนามัย เพราะลูกเรายังเล็กเค้ายังเลือกอาหารรับประทานเองไม่ได้  ช่วง 6 เดือน - 5 ขวบ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์เพื่อไปเสริมสร้างพัฒนาการต่างๆ ในร่างกายทุกส่วนที่กำลังเจริญเติมโตของลูกน้อย และ เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่  โปรตีน  คาร์โบไฮเดรต  เกลือแร่หรือแร่ธาตุ  วิตามิน ไขมัน ซึ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับลูกน้อยของเรา
แต่ จะให้ลูกรับประทานให้ครบ 5 หมู่เลยที่เดียวในแต่ละมื้อดูจะเป็นเรื่องยากเมื่อเจ้าตัวเล็กเห็น ข้าวเดิมๆ เนื้อสัตว์เดิมๆ ผลไม้เดิมๆ และ ผักเดิมๆ  แม่นกเลยเพิ่มลูกเล่นใส่ลงไปใสจานข้าวเจ้าตัวเล็กทุกมื้อ อุปกรณ์ที่ใช้ก็หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้า บรรดาแม่พิมพ์อาหารต่างๆ ที่จะนำมาใช้ในการเปลี่ยน ผัก ผลไม้ และ เนื้อสัตย์ ให้มีหน้าตาแปลกใหม่ น่ารับประทานยิ่งขึ้น  มีทั้งแบบพลาสติก และ สแตนเลส  ถ้าเป็นแบบ สแตนเลส ก็จะทำความสะอาดได้ดีหน่อย พอล้างเสร็จก่อนทำก็ให้คุณแม่นำไปลวกน้ำร้อน สักหน่อยเพื่อฆ่าเชื้อ ส่วนพลาสติกแค่ทำความสะอาดล้างคราบ น้ำยาล้างจานให้เกลี้ยง แล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้ง เวลาเก็บก็ใส่ถุงพลาสติกแยกไว้ต่างหากทุกครั้งเพื่อความสะอาดและป้องกันลูกท้องเสียได้










อันนี้อย่าประมาทเด็ดขาดแม่นกมีประสบการณ์  ตอนนั้นน้องอายุได้ประมาณ 8-9 เดือน  ยังพูดไม่ค่อยเก่ง แม่นกก็ทำอาหารให้ทานตามปกติ ล้างทำความสะอาดแม่พิมพ์พลาสติกตามปกติแล้วนำไปผึ่งไว้ให้แห้งหลังบ้าน  แม่นกลืมเก็บเช้ามาถึงเห็นเลยหยิบมาทำอาหารเช้าให้เจ้าตัวเล็กทาน  ก่อนนำมาใช้แม่นกก็ล้างแค่น้ำเปล่า แม่พิมพ์อาหาร  ทำอาหารเสร็จเจ้าตัวเล็กก็รับประทานอาหารหมดเหมือนทุกครั้ง ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงน้องก็ถ่าย แม่นกก็เข้าใจว่าปกติ แต่ผิดปกติตรง น้องนั่งเล่นไปกางเกงก็เปื้อนอึไปก็เข้าใจว่ายังคงอึไม่สุด  งอแงบ้างสลับไป เปลี่ยนกางเกงไป 3-4 รอบ เริ่มเห็นท่าไม่ดีเลยพาไปหาคุณหมอ  คุณหมอก็ว่าน้องน่าจะท้องเสีย แต่ก็อาจเป็นไปได้น้องเค้ากำลังจะยืดตัวเพราะจะได้ขวบหนึ่งแล้ว ก็ไม่มีอะไรคุณหมอไม่ได้ให้ยามาทานให้แต่เกลือแร่  ก็ดีขึ้นอยู่พัก ตกเย็นน้องงอแง ไม่ทานข้าว นั่งอึไปร้องไป  อึก็มีแต่น้ำและเป็นมูกเหนียวๆออกมา อึเสร็จก็เล่นต่อแต่ก็มีเปื้อนกางเกงบ้างแต่ไม่มากตกกลางคืนน้องก็งอแงสลับกับมีไข้   เช้ามาเลยพาไปหาคุณหมออีกครั้ง คราวนี้คุณหมอขอตรวจอึน้อง โดยการสวนก้นน้องเพื่อเอาอึมาตรวจ  ร้องลั่นโรงพยาบาลเลยไม่ได้เจ็บอะไรแต่คงกลัว  พอคุณหมอได้อึน้องก็นำไปตรวจ สรุปคุณหมอบอกว่าในอึน้องมีเชื้อโรคบิด ตกใจและสงสารลูกมาก เพราะโดยปกติผู้ใหญ่เราท้องเสียก็ปวดท้อง มวนท้องก็ทรมานอยู่แล้ว นี้บิดซึ่งหนักกว่าท้องเสียมาก แถมน้องเค้าก็บอกเราไม่ได้ว่าเค้าเจ็บ เค้าปวดตรงไหน คงทรมานมาก คุณหมอเลยถามว่า นอกจากนมแม่แล้วน้องทานอาหารเสริมด้วยใช่ไหม แม่นกตอบว่าใช่ค่ะ  คุณหมอเลยแนะนำว่าเรื่องความสะอาดของอาหารเสริมที่จะนำมาให้น้องรับประทานคุณแม่ต้องระวังเรื่องความสะอาดอย่างมากเพราะร่างกายน้องไม่เหมือนผู้ใหญ่ภูมิคุ้มกันและภูมิต้านทานยังไม่แข็งแรง คุณหมอให้ยาฆ่าเชื้อมาทาน กลับไปบ้านแม่นกก็มานั่งนึกว่าทำอาหารอะไรไม่สะอาด ผักและผลไม่ก็แช่น้ำยาล้างผักทุกครั้ง ภาชนะที่ใช้ก็เก็บใส่ตู้มิดชิด จานข้าวน้องแม่นกก็ลวกทุกครั้ง หรือ จะเป็นเนื้อสัตย์  ปกติแม่นกซื้อไม่เยอะ พยายามจะซื้อวันต่อวัน แล้วแม่นกเดินไปหลังบ้านตรงที่คว่ำชามเห็นมีขาแมลงสาบหักอยู่ ใช่เลย  ต้องเป็นแม่พิมพ์อาหารที่แม่นกลืมเก็บคืนนั้นแน่เลย แล้วเวลานำมาใช้ก็ล้างแค่น้ำเปล่าก็เข้าใจว่าสะอาดแล้ว  ถือว่าเป็นความประมาทและไม่รอบคอบของแม่นกเองที่ทำให้น้องไม่สบาย บางครั้งสิ่งที่เรามองข้ามเรื่องเล็กๆน้อยๆ ก็อาจทำร้ายคนที่เรารักที่สุดไปโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นต้องระวังจริงๆนะค่ะ
มาเข้าเรื่องการตกแต่งจานข้าวเจ้าตัวเล็กต่อ นอกจากแม่พิมพ์อาหารลายน่ารักๆแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างที่คุณแม่ต้องใส่ลงไปทุกครั้งเมื่อทำอาหารคือจินตนาการความเป็นเด็กในตัวของคุณแม่ลงไป  เมื่อเราเลี้ยงเด็กเราก็ต้องเป็นเด็กแล้ว เราจะเข้าใจความต้องการของลูกมากขึ้น รับรองคุณแม่จะได้ทั้งความเพลิดเพลินและความสนุก แถมได้มีเวลาได้เล่นกับลูกอีกด้วย หรือจะเป็นการเล่านิทานไปด้วยในขณะรับประทานอาหารในแต่ละมื้อก็ยิ่งเพิ่มความอยากรับประทานข้าวในแต่ละมื้อของเจ้าตัวเล็กเป็นอย่างมาก เพราะในแต่ละมื้อของเค้า คุณแม่จะมีจานข้าวหน้าตาแปลกๆ และ มีเรื่องสนุกๆ มาให้เข้าหัวเราะ ตื่นเต้นอยู่เสมอน้องก็จะกลายเป็นเด็กอารมณ์ดีอีกด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น