หม่ำ หม่ำ กับ
แม่นก
ปลาทอดสีทองกับน้ำปลาพริกมะขามอ่อนรสเด็ด
วันนี้แม่นกไปจ่ายตลาด เห็นเป็นเห็นปลาตะเพียนและปลานิล
ก็เลยมาคิดว่าเมนู ปลาน้ำจืดแม่นกไม่ค่อยทำเท่าไหร่
ก็คงเหมือนกับแม่บ้านหลายๆ
ท่านที่ไม่ค่อยชอบกลิ่นคาวของปลาน้ำจืดสักเท่าไหร่
เมื่อเทียบกับปลาทะเลแล้วปลาน้ำจืดออกจะมีกลิ่นที่แรงมาก หากนำมาปรุงอาหารแล้วทำไม่เป็น บางครั้ง เหม็นคาวทั้งหม้อจนต้องทิ้งกันเลย
เมนูที่ทำง่ายและดูเหมือนแม่บ้านหลายๆ ท่านก็ทำได้คงไม่พ้น นำปลา น้ำจืดมาทอดกรอบ ใช่ค่ะ วันนี้แม่นกจะ
นำปลานิลและปลาตะเพียน มาทอด รับประทานกันค่ะ คงแปลกใจ เมนูปลาทอดใครๆ ก็ทำได้ทำไม่แม่นกต้องมาแนะนำเมนูนี้
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ปลาทอดแต่เป็น น้ำจิ้มปลาทอด ที่แม่นกจะนำเสนอ นั้นคือ
น้ำปลาพริกมะขามอ่อน ที่ใช้จิ้มกับปลาทอดของเรา จากน้ำปลาพริกธรรมดาดัดแปลงให้เป็นน้ำปลาพริกที่
ไม่ธรรมดา ว่าแล้วเรามาดูวัตถุดิบกันเลยค่ะ
ส่วนประกอบของปลาทอด
- ปลานิล และ ปลาตะเพียน อย่างละ 1 ตัว
- น้ำมันปาล์มสำหรับทอด
- กระดาษซับมันสำหรับปรุงอาหาร หรือ ตะแกรงกรองน้ำมัน
- เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- แป้งทอดกรอบ 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนประกอบของน้ำปลาพริกมะขามอ่อน
- มะขามอ่อน 3-4 ฟัก
- กระเทียมหัวใหญ่ 3 กลีบ
- พริกขี้หนู 4-5 เม็ด
- มะนาว ½ ลูก
- น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
- น้ำปลาอย่างดี
- น้ำอุ่น
เรามาเริ่มลงมือทำกันเลย เริ่มจาก
เมื่อคุณแม่บ้านได้ปลามา ให้นำมาขอดเกล็ด และ เอาเครื่องในปลาออก
เริ่มจากปลานิลให้คุณแม่คอดเกล็ดตัดคีบออกให้หมดรวมทั้งหางและส่วนหัวก็ให้คุณแม่ใช้มีดสับตรงแก้มปลาออกให้เหลือแต่เหงือกของปลา แล้วบริเวณลำตัวให้คุณแม่บั้งแนวเฉียงให้ลึกจนถึงกระดูลำตัวของปลาเลย
จากนั้นล้างน้ำสะอาดหนึ่งครั้งเพื่อล้างพวกเกล็ดปลาและคราบเลือดปลาออกแล้วล้างน้ำเกลืออีกหนึ่งครั้งใช้เกลือประมาณ
1 กำมือผสมกับน้ำแล้วล้างปลาเพื่อให้เมือกปลาออก จากนั้นก็ล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง
พักทิ้งไว้ก่อน ทีนี้ก็ปลาตะเพียนเมื่อ คุณแม่บ้านขอดเกล็ดตัดครีบและหางออกหมด
ก็ผ่าท้องเอาขี้ปลาและเครื่องในออก ปลาตะเพียนส่วนใหญ่ไข่เค้าจะเต็มท้องไม่ต้องเอาออกนะคะเอาเฉพาะขี้ปลาออกก็พอและไม่ต้องตัดหัวออก
จากนั้นก็ให้คุณแม่นำไปล้างน้ำสะอาด
ทำเหมือนล้าง ปลานิลเลยค่ะ 3
น้ำ เมื่อล้างสะอาดแล้ว
เนื่องจากปลาตะเพียนเป็นปลาน้ำจืดที่มีก้างปลาเล็กๆ เยอะมากเวลาเรานำมาบั้งบริเวณลำตัวเราจะไม่บั้งเหมือนปลานิลแต่เราจะบั้งแบบถี่ที่สุดบั้งให้ลึกถึงกระดูกลำตัวปลาเลยคุณแม่พยายามใช้มีดซอยให้ถี่ๆ
เลยนะคะ เราจะทำให้ก้างปลาละเอียดเวลานำไปทอดก้างปลาจะกรอบและเมื่อรับประทานก็สามารถรับประทานได้ทั้งก้างปลาพร้อมเนื้อปลา
เลย
เมื่อเราได้ปลาพร้อมแล้วให้คุณแม่บ้านนำเกลือป่นมาโรยและแป้งทอดกรอบเราใช้ แค่ 1 ช้อนโต๊ะ ไม่ต้องผสมน้ำโรยพร้อมกับเกลือได้เลยเราใช้แค่พอเคลือบผิวเนื้อปลาป้องกันติดกระทะและเหลืองน่ารับประทาน
คลุกเคล้าให้เกลือและแป้งเข้ากับ เนื้อปลาจากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 5
นาที ช่วงรอเราก็มาเตรียมกระทะตั้งไฟเทน้ำมัน ลงกระทะ
เราจะใช้น้ำมันเยอะหน่อยนะคะ เพื่อความกรอบของปลา แม่นกใช้ประมาณ ½ ขวด ใส่เกลือลงไปประมาณ ½ ช้อนชา จะช่วยไม่ให้ปลาติดกระทะได้ด้วยนะคะ แม่นกจะใช้ไฟแรงรอจนน้ำมันร้อนจัดแล้วค่อยเบาไฟลงเป็นไฟกลางแล้วจึงใส่ปลาที่เราหมักเกลือลงไป
จากนั้นปล่อยไว้เลยไม่ต้องไปคอยพริกดูว่าสุกไหม เพราะเมื่อปลาสุกเค้าจะลอยเหนือน้ำมันและเสียงของน้ำมันก็จะเบาลง
เมื่อนั้นคุณแม่ค่อยพลิกปลา เอาอีกด้านขึ้นและรอจนปลาลอยขึ้นมาเช่นกัน จากนั้นก็ให้ คุณแม่ตักปลาที่ทอดเสร็จแล้วใส่กระดาษซับมันที่ใช้สำหรับประกอบอาหาร
หรือตะแกรงกรองน้ำมันเพื่อไม่ให้ปลาอมน้ำมัน วิธีการทอดเหมือนกันทั้ง ปลา 2 ชนิด
จากนั้นเรามาลงมือทำน้ำปลาพริกมะขามอ่อนกัน
เมื่อคุณแม่ได้มะขามอ่อนมา ให้ล้างน้ำให้สะอาดถูบริเวณเปลือกสักหน่อยเอาคราบสีน้ำตาลบริเวณผิวของมะขามอ่อนออก
เสร็จแล้วนำมะขามอ่อนมาซอยให้ละเอียด จากนั้นก็นำกระทียมที่ปลอกเปลือกเรียบร้อยแล้วและพริกขี้หนูแดง
ซอยให้ละเอียดเช่นกัน จากนั้นก็เทน้ำปลาลงถ้วย แม่นกจะใช้อยู่ 2 ยี่ห้อ คือ
ทิพย์รส และ คนแบกกุ้ง แม่นกว่าน้ำปลาเค้าหอม และมีรสชาติที่ดี
เทน้ำปลาประมาณครึ่งถ้วยน้ำพริก จากนั้นใส่น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา น้ำอุ่น 1 ช้อนชา เพื่อให้รสชาติของน้ำปลาที่เค็มแหลมลดลง
คนให้น้ำตาลทรายละลายในน้ำปลาจนหมดจากนั้นใส่ พริก กระเทียม และ มะขามอ่อนซอยลงไปคลุกเคล้าให้ทุกอย่างเข้ากันในน้ำปลา
ขั้นตอนนี้ให้คุณแม่บ้านลองชิมดู
หากรสชาติของมะขามอ่อนเปรี้ยวก็ให้คุณแม่บีบมะนาวลงไปประมาณ ½ ซีก เพราะมะขามอ่อน ที่ขายแต่ละที่ความเปรี้ยวไม่เท่ากัน
บางที่ก็เปรี้ยวจัด บางที่ก็อมเปรี้ยวอมหวานนิดๆ แล้วแต่พันธ์นะคะ โดยรวมรสชาติน้ำปลาพริกมะขามอ่อน
จะออก เปรี้ยวนำตามด้วยเค็ม และ หวานนิดๆ
ส่วนเผ็ดก็จะไม่ค่อยเผ็ดมากเวลารับประทานหากใครรับประทานเผ็ดก็จะตักพริกซอยรับประทานพร้อมกับปลาทอดเลยค่ะ
เท่านี้ก็เสร็จพร้อมเสิร์ฟกับปลาทอดสีเหลืองทองน่ารับประทานแล้วค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น