วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ทำอาหารกันดีกว่ากับเมนู"ยำปลาทูสมุนไพร "

หม่ำ หม่ำ กับ แม่น

ยำปลาทูสมุนไพร


เมนูอาหารคาววันนี้แม่นกไปจ่ายตลาดเห็นปลาทูนึ่งใส่เข่งตัวอวบน่ารับประทาน เลยนึกถึงเมนูที่แปรรูปปลาทูทอดเป็นเมนูเพื่อสุขภาพ รสชาติ จัดจ้าน เข้ากันได้ดีกับ          ข้าวสวยร้อนๆ ด้วยเมนู ยำปลาทูสมุนไพร  มีสมุนไพรไทยที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพด้วย เรามาดูวัตถุดิบกัน
·      ปลาทูนึ่ง 2 เข่ง
·      มะม่วงเบาหรือมะม่วงกระล่อน  2-3 ลูก
·      ตะไคร้ 2 ต้น
·      หัวหอมแดง 2 หัว
·      กระเทียมหัวใหญ่  3-4 กลีบ
·      ผักชีใบเลื่อย 1 ต้น
·      ต้นหอม 1 ต้น
·      น้ำปลา
·      น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
·      มะนาว 1 ลูก
·      พริกขี้หนูแดง 2-3 เม็ด
·      พริกป่น ½ ช้อนชา
·      หัวกระชายเหลือง 1-2 กิ่ง

เมื่อๆได้วัตถุดิบเรามาเริ่มเตรียมวัตถุดิบก่อนปรุงกันเลย  เริ่มจากให้คุณแม่บ้านนำปลาทูนึ่งหรือปลาทูเข่งมาทอดให้พอเหลือง เวลาคุณแม่บ้านเลือกปลาทูที่นำมาใช้ให้สังเกตปลาทูตัวอวบๆ สีนวล หน่อย เข่งหนึ่งประมาณ 2 ตัว ราคาเข่งหนึ่งก็ประมาณ 35-40 บาท จะมีเนื้อที่เยอะ และเนื้อจะไม่เค็มมาก 


เมื่อเราทอดปลาทูเสร็จแล้วให้ตักออกจากกระทะแล้วพักทิ้งไว้ให้เย็นก่อน เพื่อเวลาคุณแม่นำมาแกะเอาเนื้อปลาได้ง่ายยิ่งขึ้น ช่วงรอปลาทูเย็น เราก็มาเตรียมวัตถุดิบอื่นกันต่อ ให้คุณแม่บ้านนำ ตะไคร้ ต้นหอม ผักชีใบเลื่อย หรือ ผักชีฝรั่ง ออกจะมีหลายชื่อหน่อย เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม และ ยังเป็นยาขับลมแก้ท้องอืดได้ดีอีกด้วย หรือ                  คุณแม่บ้านจะใส่แต่ต้นหอมอย่างเดียวก็ได้ตามสะดวกค่ะ  นำทุกอย่างมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วนำมาซอยแบบละเอียด จากนั้นก็นำหัวหอม กระเทียม ปลอกเปลือกล้างน้ำแล้วนำมาซอยละเอียดด้วยเช่นกัน ส่วน หัวกระชายเหลืองให้คุณแม่นำมาปลอกเปลือกเนื่องจากกระชายเปลือกเค้าจะบางมากให้คุณแม่บ้านใช้มีดขูดเปลือกบางๆออกให้หมดแล้วล้างน้ำสะอาด จากนั้นก็นำมาซอยบางๆ ให้ละเอียด 
กระชายเหลืองช่วยย่อยอาหารได้ดีและแก้อาการปวดท้อง มวนในท้อง อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม  แต่จะมีกลิ่นที่แรงอยู่สักหน่อย คุณแม่บ้านบางท่านอาจจะไม่ชอบกลิ่นของกระชาย อาจไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ เอาตามสะดวก สูตรนี้เป็นของแม่นก หากคุณแม่บ้านจะดัดแปลงเอาเฉพาะวัตถุดิบที่คุณแม่บ้านสะดวกและรับประทานก็ได้ค่ะ หรือ หากรับประทานได้หมดก็ใส่วัตถุดิบตามแม่นกเลยนะค่ะ เพราะเมนูจานนี้ดีต่อสุขภาพจริงๆ แถมไม่มีไขมันเป็นอาหารที่ใช้ในการควบคุมน้ำหนักก็ได้คะ เมื่อเราเตรียมวัตถุดิบพร้อมแล้วให้คุณแม่บ้านมาแกะปลาทูที่เราทอดแล้วพักไว้ แกะเอาเฉพาะเนื้อปลา เอาก้างปลาออกให้หมด  


เมื่อได้เนื้อปลาทูให้คุณแม่นำทุกอย่างที่เราเตรียมไว้เทใส่รวมกันกับเนื้อปลาทูที่แกะคุณแม่บ้านอาจใช้เป็นชามกะละมังใบใหญ่หน่อยในการคลุกเคล้า  ยกเว้นต้นหอมกับผักชีใบเลื่อย แล้วทำการขยำ ให้เนื้อปลาแตกตัวไม่ต้องบีบเนื้อปลาแรงจนเกินไป ในการขยำ โดยให้คุณแม่สวมถุงมือที่ใช้ทำอาหาร เติมน้ำตาลทราย น้ำมะนาว พริกขี้หนูแดงที่ซอยละเอียด และ นำมะม่วงเบาหรือมะม่วงกะร่อน ลูกจะเล็กๆ ตามตลาดเค้าจะขายเป็นพวง ล้างน้ำให้สะอาดจากนั้นก็สับและซอย โดยที่ไม่ต้องปลอกเปลือก เพราะเปลือกเค้าจะบางและไม่ค่อยมียางใส่ลงไป
 ที่แม่นกเลือกใช้มะม่วงชนิดนี้เพราะมะม่วงชนิดนี้เพราะเค้าจะมีความหอมและ          ความเปรี้ยวอมหวานเล็กน้อยไม่เปรี้ยวแหล่มจนเกินไป  แต่ถ้าหากคุณแม่บ้านหาไม่ได้ จะใช้เป็นมะม่วงแก้วดิบ หรือ มะม่วงน้ำดอกไม้ดิบ ก็ได้เช่นกัน  แต่เนื่องจากมะม่วงทั้ง 2 ชนิดนี้เปลือกเค้าจะมียางและหนา ก่อนนำมาสับและซอยให้คุณแม่ปลอกเปลือกและล้าง น้ำให้สะอาดก่อนนะคะ
ชิมรสชาติดูก่อนที่จะใส่น้ำปลาเพราะปลาทูนึ่งแต่ละที่เค้าขายตามท้องตลาดจะมีรสชาติของปลาทูไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับกระบวนการทำในการแช่น้ำเกลือก่อนนำมานึ่งของแต่ละที่หากแช่น้ำเกลือนานหน่อย ปลาทูนึ่งที่ได้ก็จะมีรสชาติที่เค็มมาก หากแช่น้ำเกลือไม่นานปลาทูนึ่งที่ได้ก็จะมีรสเค็มนิดหน่อย และเมื่อคุณแม่บ้านชิมรสชาติแล้วยังไม่เค็มเท่าที่ควรก็ค่อยเติมน้ำปลาลงไปให้เติมทีหลังก็ได้ให้เติมทีละเล็กน้อยก่อน แล้วชิมจนได้รสชาติที่ต้องการเพราะหากใส่ไปมากเกินเมื่อรสเค็มแหลมออกมาจะแก้ลำบาก จากนั้นใส่ ต้นหอมซอย ผักชีใบเลื่อยซอย และ พริกป่น ลงไปคลุกเคล้าเพียงเล็กน้อย รสชาติยำปลาทูสมุนไพรนี้จะออก เผ็ด เปรี้ยวนำ เค็ม และ หวานเล็กน้อย และ มีกลิ่นของสมุนไพรจน ขึ้นจมูก เท่านี้ก็ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ หรือจะมีผักสดหรือผักกาดขาวล้างน้ำสะอาด รับประทานแบบเมี่ยงปลาทูก็เข้ากันดีเลยทีเดียว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น